ข้อแตกต่าง ของการจัดฟันแบบทั่วไป กับการ จัดฟันใส !การจัดฟันแบบทั่วไป เรามักเห็นได้บ่อย เพราะเป็นที่นิยมมากตั้งแต่ในวัยรุ่นจนไปถึงวัยทำงาน ซึ่งการจัดฟันแบบใส่เหล็กทั่วไป มีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงมาก สามารถแบ่งจ่ายได้เป็นรายเดือน และต้องเข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกเดือน อย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงของฟัน รวมไปถึงต้องมีการติดเครื่องมือใหม่ๆเพิ่มไปในช่องปากด้วย
การจัดฟันแบบทั่วไป ที่ใส่เหล็กจัดฟัน จะมีความเจ็บปวดแทบจะทุกเดือนหรือทุกครั้งที่เข้าพบทันตแพทย์ ทันตแพทย์จะทำการใส่เครื่องมือหรือในบางกรณีอาจจะมีการดึงฟันด้วย ทำให้รู้สึกเจ็บปวด แต่การจัดฟันแบบนี้ ก็ถือว่ามีประสิทธิภาพมาก เพราะเห็นความเปลี่ยนแปลงของฟันได้อย่างชัดเจน ทั้งยังเกิดข้อผิดพลาดน้อยด้วย
นอกจากนี้ยังมีการจัดฟันอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีความสะดวกสบายและเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน นั่นก็คือการ จัดฟันแบบใส invisalig
n เป็นการจัดฟันแบบใส ที่สามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันออกได้ และถูกออกแบบมาเฉพาะด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยแสดงผล
ออกมาแบบ 3D โดยการจัดฟัน invisalig
n จะทำให้ฟันของผู้เข้ารับการรักษาเรียงตัวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ แทบจะมองไ
ม่ออกเลยว่า กำลังจัดฟันอยู่ การจัดฟันแบบใส แม้จะเป็นการจัดฟันที่ได้ผลชัดเจนและใช้เวลาในการจัดฟันไม่นานเท่ากับการจัดฟันแบบทั่วไป แต่ก้มีข้อจำกัดหลายอย่าง อย่างแรกคือ ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีวินัยในการสวมใส่เครื่องมือ ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องที่สำคัญมากและต้องคำนึงถึงให้มากที่สุด
สำหรับความแตกต่างในการจัดฟันแบบทั่วไปและการจัดฟันแบบใส invisalig
n อย่างแรกเลยคือ เครื่องมือจัดฟันที่มีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก เพระาการจัดฟันแบบใส invisalig
n มีเครื่องมือที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ต่างจากการจัดฟันในรูปแบบอื่น นั่นก็คือ เครื่องมือมีความบางและใส ซึ่งเวลาใสจะสังเกตได้ยาก ต่อมาคือ การจัดฟันแบบใส สามารถถอด
เครื่องมือออกได้
สามารถทำค
วามสะอาดช
่องปากได้อย่างเต็มที่ ใน๘ระที่การจัดฟันแบบทั่วไป ไม่สามารถถอดเครื่องมือออกได้ และยังทำความสะอาดช่องปากได้ไม่สะดวกเท่าที่ควร รวมไปถึงการรับประทานที่ผู้จัดฟันแบบทั่วไป ไม่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลายและสุดท้ายคือระยะเวลาในการจัดฟัน ซึ่งการจัดฟันแบบใส เป็นการประหยัดเวลามากกว่า และการจัดฟันแบบทั่วไป ใช้ระยะเวลานานถึง 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคล