ผู้เขียน หัวข้อ: Doctor At Home: ไทฟอยด์/ไข้รากสาดน้อย (Typhoid fever/Enteric fever)  (อ่าน 47 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 352
  • ลงประกาศฟรี ซื้อ-ขายออนไลน์ ใหม่-มือสอง โปรโมทสินค้า ลงประกาศได้ไม่จำกัด
    • ดูรายละเอียด
Doctor At Home: ไทฟอยด์/ไข้รากสาดน้อย (Typhoid fever/Enteric fever)
« เมื่อ: วันที่ 11 กันยายน 2024, 17:06:45 น. »
Doctor At Home: ไทฟอยด์/ไข้รากสาดน้อย (Typhoid fever/Enteric fever)

ไทฟอยด์ (ไข้ไทฟอยด์ ไข้เอนเทอริก ไข้รากสาดน้อย ก็เรียก) พบได้บ่อยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ดังที่ชาวบ้านรู้จักกันดีว่า ไข้หัวโกร๋น เพราะสมัยนั้นยังไม่มียารักษา เป็นไข้กันเป็นเดือนจนกระทั่งผมร่วง

พบได้ในทุกอายุ แต่จะพบมากในคนอายุ 10-30 ปี อาจพบว่ามีคนในละแวกใกล้เคียงเคยเป็นหรือกำลังเป็นโรคนี้ด้วย พบมากในฤดูร้อน แต่ก็พบได้ตลอดทั้งปี

บางครั้งอาจพบระบาดได้ โดยเฉพาะอ ย่างยิ่งในท้องถิ่นที่การสุขาภิบาลยังไม่ดี

ผู้ติดเชื้อบางรายอาจไม่มีอาการแสดง แต่เป็นพาหะแพร่เชื้อให้ผู้อื่น


สาเหตุ

เกิดจากเชื้อไทฟอยด์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีชื่อว่า ซัลโมเนลลาไทฟิ (Salmonell a typhi)

โรคนี้สามารถติดต่อโดยการกินอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระหรือปัสสาวะของผู้ป่วยหรือพาหะ หรือปนเปื้อนเชื้อจากแมลงวันตอม

นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อโดยทางเพศสัมพันธ์ที่มีการใช้ปากสัมผัสกับทวารหนักหรือองคชาตที่ปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระในบริเวณทวารหนัก (ซึ่งพบในหมู่ชายรักร่วมเพศ)

เชื้อจะรุกล้ำเข้าไปในเยื่อบุลำไส้เล็กอาศัยอยู่ในกลุ่มเซลล์น้ำเหลือง (Peyer's patch) ทำให้ลำไส้อักเสบหรือเป็นแผล ขณะเดียวกันก็แพร่เข้าตับ ทางเดินน้ำดี และเข้าสู่กระแสเลือดแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่าง ๆ เช่น ปอด หัวใจ ไต สมอง กระดูก ไขกระดูก เป็นต้น

ระยะฟักตัว ประมาณ 14 วัน (7-21 วัน)


อาการ

ลักษณะโดดเด่น คือ มีไข้สูงลอยแบบเรื้อรัง

อาการจะค่อยเป็นค่อยไป โดยแรกเริ่มจะมีอาการไข้ต่ำ ๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย คล้ายไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ แต่ไม่มีน้ำมูก อาจมีเลือดกำเดาออก บางครั้งอาจมีอาการไอแห้ง ๆ และเจ็บคอเล็กน้อย

มักมีอาการท้องผูก (มักพบในผู้ใหญ่) หรือไม่ก็ถ่ายเหลว (มักพบในเด็ก) ร่วมด้วย

อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดแน่นท้อง ท้องอืด และกดเจ็บเล็กน้อย

ต่อมาไข้จะค่อย ๆ สูงขึ้นทุกวัน และจับไข้ตลอดเวลา ถึงแม้จะกินยาลดไข้ก็อาจไม่ลด ทุกครั้งที่จับไข้จะรู้สึกปวดศีรษะมาก

อาการไข้มักจะเรื้อรัง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอาจมีไข้สูงอยู่นาน 3 สัปดาห์ แล้วค่อย ๆ ลดลงจนเป็นปกติเมื่อพ้น 4 สัปดาห์ บางรายอาจ เป็นไข้อยู่นาน 6 สัปดาห์ก็ได้

บางรายอาจ มีอาการหนาวสะท้านเป็นพัก ๆ เพ้อ หรือปวดท้องรุนแรงคล้ายไส้ติ่งอักเสบ หรือถุงน้ำดีอักเสบ

ผู้ป่วยจะซึมและเบื่ออาหารมาก ถ้ามีอาการมากกว่า 5 วันผู้ป่วยจะดูหน้าซีดเซียว แต่เปลือกตาไม่ซีด (เหมือนอย่างผู้ป่วยโลหิตจาง) ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคที่เรียกว่า หน้าไทฟอยด์

ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าไม่ได้รับการรักษาอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ที่พบบ่อยและเป็นอันตราย ได้แก่ เลือดออกในลำไส้ (ถ่ายเป็นเลือดสด ๆ อาจถึงช็อกได้) และลำไส้ทะลุ (ท้องอืด ท้องแข็ง) ซึ่งจะพบหลังมีอาการได้ 2-3 สัปดาห์

นอกจากนี้ ยังอาจพบภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ปอดอักเสบ โลหิตเป็นพิษ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ ไตอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ข้ออักเสบชนิดติดเชื้อเฉียบพลัน กระดูกอักเสบเป็นหนอง (osteomyel itis) โรคจิต (psychosis)


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรว จร่างกาย โดยมีสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ในระยะแรก อาจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจนนอกจากไข้ 38.5-40 องศาเซลเซียส หน้าซีดเซียว (แต่เปลือกตาไม่ซีด) ฝ่ามือซีด ริมฝีปากแห้ง บางรายอาจ พบอัตราชีพจรไม่สัมพันธ์กับไข้ที่ขึ้นสูง (relative bradycard ia) บางรายอาจ มีอาการท้องอืด กดเจ็บใต้ชายโครงขวาหรือท้องน้อยข้างขวา อาจพบจุดแดงคล้ายยุงกัด เมื่อดึงหนังให้ตึงจะจางหาย เรียกว่า โรสสปอต (rose spots) ที่หน้าอกหรือหน้าท้อง ซึ่งมักจะขึ้นหลังมีไข้ได้ 5 วัน และอยู่นาน 3-4 วัน

ระยะต่อมาอาจพบม้ามโต ตับโต และบางราย อาจมีอาการดีซ่าน หรือโลหิตจาง (ถ้าเป็นเรื้อรัง)

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจเลือด ทำการทดสอ บไวดาล (Widal test) ตรวจนับจำนวนเม็ดเลือดขาว (มักต่ำกว่า 5‚000 ตัว/ลบ.มม.) นำเลือด อุจจาระ และปัสสาวะไปเพาะหาเชื้อ


การรักษาโดยแพทย์

1. แนะนำให้ผู้ป่วยกินอาหารอ่อน (เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก) ดื่มน้ำมาก ๆ นอนพัก ห้ามอาบน้ำเย็น ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเพื่อลดไข้บ่อย ๆ และให้ยาลดไข้-พาราเซตามอล

2. ให้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งมีให้เลือกอยู่หลายชนิด เช่น ไซโพรฟล็อกซาซิน, โอฟล็อกซาซิน, อะม็อกซีซิลลิน, คลอแรมเฟนิคอล, โคไตรม็อกซาโซล เป็นต้น นาน 5-21 วัน ขึ้นกับชนิดของยา

โดยทั่วไปหลังให้ยา 4-7 วัน อาการไข้จะเริ่มลง ถ้าไข้ไม่ลง หรือมีปัญหาเชื้อดื้อยา แพทย์อาจจำเป็นต้องทำการเพาะเชื้อ และให้ยากลุ่มใหม่ (เช่น อะซิโทรไมซิน, เซฟิไซม์, เซฟทริอะโซน)

3. ถ้าผู้ป่วยมีอาการอาเจียนมาก ท้องเดินรุนแรง ท้องอืด เบื่ออาหาร หรือมีภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะรับตัวผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล ให้ยาปฏิชีวนะชนิดฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ และแก้ไขภาวะผิดปกติต่าง ๆ (เช่น ให้เลือดถ้ามีเลือดออกในลำไส้)

ผลการรักษา ส่วนใหญ่มักหายเป็นปกติภายใน 2-3 สัปดาห์ มีน้อยรายที่อาจมีอาการกำเริบใหม่ ซึ่งเมื่อให้ยารักษาอีกรอบก็มักจะหายขาดได้ แต่ถ้าปล่อยไว้จนได้รับการรักษาล่าช้าไป ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดอันตรายร้ายแรงได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้สูงตลอดเวลาทุกวันเกิน 4-7 วัน หรือมีไข้สูงในผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยไทฟอยด์ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นไทฟอยด์ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

2. กินยาปฏิชีวนะตามขนาดและครบระยะเวลาตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด

3. ติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

4. ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ปวดศีรษะมาก ซึม หรือไม่ค่อยรู้สึกตัว
    ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด
    ปวดท้องรุนแรง เจ็บหน้าอกมาก หรือหายใจหอบ
    เบื่ออาหาร ดื่มน้ำได้น้อย หรืออาเจียน 
    ตาเหลืองตัวเหลือง หรือมีจุดแดงจ้ำเขียวตามตัว 
    ปวดข้อ ข้ออักเสบ
    กินยาที่แพทย์แนะนำ 4-5 วันแล้วไม่ดีขึ้น หรือหลังจากไข้หายดีแล้วกลับมีไข้กำเริบใหม่
    หลังกินยามีผื่นคัน ตุ่มพุพอง ปากบวม ตาบวม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ซีด จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีความผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล


การป้องกัน

1. ปฏิบัติเช่นเดียวกับการป้องกันโรคบิดชิเกลลา 

2. สำหรับผู้ป่วยควรแยกสำรับอาหารและเครื่องใช้ส่วนตัว อย่าปะปนกับผู้อื่น อุจจาระควรถ่ายลงในส้วม และควรล้างมือให้สะอาดหลังถ่ายอุจจาระ

3. ควรตรวจเชื้อในอุจจาระของผู้ประกอบการเกี่ยวกับอาหารในร้านอาหารและภัตตาคาร (เช่น คนครัว บริกร เป็นต้น) เป็นครั้งคราว เพื่อค้นหาผู้ที่เป็นพาหะของโรคนี้ที่อาจแพร่เชื้อให้ผู้บริโภคได้ ถ้าพบควรงดประกอบอาหารจนกว่าจะตรวจไม่พบเชื้อในอุจจาระ

4. การป้องกันด้วยวัคซีน ไม่แนะนำให้ใช้กับคนทั่วไป ควรใช้กับผู้ที่ต้องเดินทางไปยังประเทศหรือถิ่นที่มีการระบาดของโรคนี้ และผู้ที่อยู่ร่วมกับผู้ที่เป็นพาหะของเชื้อไทฟอยด์

ปัจจุบันมีการผลิตวัคซีนป้องกันไทฟอยด์ทั้งชนิดกินและชนิดฉีดที่มีผลข้างเคียงน้อย

วัคซีนชนิดกินมีทั้งแบบแคปซูล (ใช้สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป) และแบบน้ำ (สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป) ให้กินครั้งละ 1 แคปซูล หรือ 1 ซอง วันเว้นวัน จำนวน 3 ครั้ง โดยกินร่วมกับน้ำเย็น (ห้ามใช้น้ำร้อน) ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ควรงดการใ ช้ยาต้านจุลชีพอย่างน้อยก่อนกินวัคซีนครั้งแรก และ 7 วันหลังกินวัคซีนครั้งสุดท้าย เนื่องจากวัคซีนชนิดกินเป็นวัคซีนที่ทำจากเชื้อเป็นแต่ทำให้อ่อนฤทธิ์ลง (live-attenuated) อาจถูกยาต้านจุลชีพทำลายได้

วัคซีนชนิดกิน หากจำเป็นสามารถกระตุ้นได้ทุก 5 ปี

ส่วนวัคซีนชนิดฉีดสามารถฉีดเข้ากล้ามหรือใต้ผิวหนังให้เด็กตั้งแต่อายุ 2 ปี ขนาด 0.5 มล. ครั้งเดียว หากจำเป็นสามารถกระตุ้นได้ทุก 2 ปี

ข้อแนะนำ

1. ในปัจจุบันพบปัญหาเชื้อดื้อยาบ่อย โดยเฉพาะอ ย่างยาที่เคยใช้แต่เก่าก่อน (คลอแรมเฟนิคอล อะม็อกซีซิลลิน โคไตรม็อกซาโซล) แม้ยาไซโพรฟล็อกซาซินและโอฟล็อกซาซิน ก็เริ่มมีปัญหาเชื้อดื้อยา ในการรักษาแพทย์อาจจำเป็นต้องทำการเพาะเชื้อและตรวจว่ายาชนิดใดที่ยังไวต่อเชื้อ แล้วเลือกใช้ยานั้นรักษา

2. การกลับเป็นซ้ำ บางรายแม้ว่าจะรักษาจนไข้หายแล้ว อาจมีไข้กำเริบได้ใหม่หลังจากหยุดยาไปประมาณ 2 สัปดาห์ แต่อาการไม่รุนแรงเท่าครั้งแรก ควรให้ยารักษาซ้ำอีกครั้ง

3. ผู้ป่วยบางรายเมื่อหายแล้วอาจมีเชื้อไทฟอยด์หลบซ่อนอยู่ในถุงน้ำดี โดยไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด เรียกว่า พาหะ (carrier) ของไข้ไทฟอยด์ ซึ่งมักปล่อยเชื้อออกมากับอุจจาระ แพร่กระจายให้ผู้อื่นต่อไปเรื่อย ๆ แพทย์สามารถตรวจพบโดยการนำอุจจาระไปเพาะเชื้อ และอาจให้การรักษาโดยให้โคไตรม็อกซาโซล หรืออะม็อกซีซิลลิน นาน 3 เดือน หรือไซโพรฟล็อกซาซิน นาน 1 เดือน ถ้ายังพบเชื้อในอุจจาระอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดถุงน้ำดีออก

4. อาการไข้สูงหรือมีไข้นานเกิน 7 วัน นอกจากไทฟ อยด์แล้วยังต้องคิดถึงโรคติดเชื้ออื่น ๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ มาลาเรีย ไข้เลือดออก สครับไทฟัส เล็ปโตสไปโรซิส เมลิออยโดซิส บรูเซลโลซิส เป็นต้น จึงควรซักประวัติและตรวจร่างกายให้ละเอียด (ตรวจอาการ ไข้)



 























































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า