Mitsubishi Triton 2024: ออล-นิว ไทรทัน ตัวเตี้ย 150 แรงม้า ขับดีบอกต่อมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกาศราค
ารุ่นย่อยออล-นิว ไทรทัน ที่สายแต่งรอคอย ไทรทัน ตัวเตี้ย ครบทุกแค็บ และตอนครึ่ง ยกสูง ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์และเชิงพาณิชย์
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศราค
ารถกระบะไ
ทรทันใหม่ ในรุ่นตัวเตี้ยครบทั้งไลน์อัพ ทั้งรุ่น “ดับเบิ้ล แค็บ” สี่ประตู ,รุ่น “เมกะ แค็บ” ตอนครึ่ง ,รุ่น “ซิงเกิ้ล แค็บ” ตอนเดียว,รุ่น “เมกะ แค็บ พลัส” ตอนครึ่ง ยกสูง
โดยรถกระบ
ะออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะ แค็บ พลัส (All-New Mitsubish
i Triton Mega Cab Plus) และ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ซิงเกิ้ล แค็บ โปร ตัวเตี้ย (All-New Mitsubish
i Triton Single Cab Low Rider Pro) มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่สุดแกร่ง “ไฮเปอร์พาวเวอร์” (Hyper Power) 2.4 ลิตร มอบพละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ขณะที่ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ตัวเตี้ย รุ่นอื่นๆ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่อันทรงพลัง “โฟร์-เอ็น-วัน-ซิกส์” (4N16) 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร
จุดเด่นสำหรับ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่คือ แชสซีส์ใหม่ “เมกาเฟรม” (Mega Frame) ที่ใหญ่ขึ้น แข็งแกร่งทนทานกว่า แต่ว่าน้ำหนักเบาลง
อีกหนึ่งจุดเด่นคือ มิตซูบิชิ ไทรทัน ซิงเกิ้ล แค็บ ตอนเดียว ทุกรุ่น สามารถบรร
จุตะกร้าสินค้าเกษตรขนาดมาตรฐาน หรือตะกร้าผลไม้ ได้มากถึง 13 ใบ ในการจัดเรียง 1 ชั้น ซึ่งเป็นขนาดกระบะท้ายที่ใหญ่ที่สุดในบรรดารถปิคอัพในไทย ขณะที่ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นเมกะ แค็บ ตอนครึ่ง สามารถรอง
รับตะกร้าสินค้าเกษตรได้มากถึง 9 ใบ ในการจัดเรียง 1 ชั้น
ในการทดสอ
บขับขี่จริงที่ทาง มิตซูบิชิ ได้จัดทดสอบในสนามแบบเป็นน้ำจิ้มเพื่อให้เห็นประสิทธิภาพของเครื่องยนต์พร้อมด้วยการบรรทุกเล็กๆขนาด 700 กิโลกรัม เพื่อให้ได้เห็นพละกำลังและประสิทธิภาพของตัวถังที่มีแชสซีส์ใหม่ จะดีมากน้อยแค่ไหน
ในการทดสอ
บได้จัดให้ทดสอบหลายรุ่นทั้ง ตั้งแต่รุ่นยกสูงสี่ประตูขับสี่ เกียร์ออโต้ 184 แรงม้า ทางแห้งและทางลุย แต่พระเอกของงานก็ต้องยกให้กับ ออล-นิว ไทรทัน ตัวเตี้ย 150 แรงม้า ตัวเลขเครื่องยนต์อาจจะดูน้อยนิดเราคงต้องมาทดสอบวิ่งจริงกัน
เข้ามาภายในห้องโดยสารต้องยอมรับว่ากับราคาเริ่มต้นที่ 5 แสนกว่าบาท อุปกรณ์ที่ได้ภายในรถถือว่าดี หน้าจอสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว ที่รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto เป็นต้น ห้องโดยสารกว้างขวางมุมมองต่างๆดี ในการทดสอ
บเป็นการทดสอบแบบสั้นๆๆๆๆมาก รอบแรกรถเ
ปล่าเพื่อดูพละกำลังช่วงล่างต่างๆ การเข้าโค้ง เครื่องยนต์ 150 แรงม้า ให้อัตราเร่งที่ดีออกตัวแบบทันใจ ตัวรถซับแรงสะเทือนได้ดี เข้าโค้งแรงๆอาการโยนตัวน้อยไม่โครงจนเกินไป พวงมาลัยน้ำหนักกำลังพอดี
รอบสองมีน้ำหนักบรรทุกเพิ่มเป็น 700 กิโลกรัม แอบตกใจเพ
ราะรถมีความนุ่มนวลมากน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้นมาทำให้การขับขี่สบายขึ้นมาก การเข้าโค้งทำได้ดีเหมือนเดิม อาการโค้งน้อยมากส่วนหนึ่งเกิดจาก "แชสซีส์ใหม่" ซึ่งลดแรงบิดตัวของตัวรถได้มาก ในส่วนพละกำลังออกตัวต่างๆนั้น กำลังหายไปบ้างแต่ก็ยังมีกำลังที่ใช้งานได้แต่ให้ดีกว่านี้ 184 แรงม้า มีพละกำลังที่ดีกว่า (เครื่องตัวเดียวกันเพิ่มแรงม้าได้ง่าย) แต่สิ่งที่หน้าเสียดายควรจะมีรุ่นเกียร์ออโต้มาให้เลือกเลย
สรุป
ใครมองหาร
ถบรรทุกใช้งานต้องบอกว่า All-New Mitsubish
i Triton Single Cab Low Rider Pro (ชื่อยาวจัง) ตัวเตี้ย เกียร์ธรรมดา ถือว่าน่าสนใจมากๆด้วยราคา จุดเด่นในการทดสอบบรรทุกจริงถึงน้ำหนักจะไม่เยอะแต่แสดงให้เห็นว่า “เมกาเฟรม” (Mega Frame) มีผลมากในการบรรทุกทำให้การขับขี่ดีจริง เรื่องกำลังของเครื่องยนต์นั้นแน่นอนว่าถ้าไม่บรรทุกหนักเพียงพอแล้วแต่สายแบก ต้องยอมรับว่าต้องมีพละกำลังมากกว่านี้
สิ่งที่น่าเสียดาย ออกรุ่นใหม่แบบไม่เต็มใจ ตัวเตี้ยมีเกียร์ธรรมดาแต่ไม่มีออโต้ให้เลือก และในรุ่น Mega Cab Plus ยกสูงก็พึงจะมีขับสี่ ตัวแรงอย่าง athlete กว่าจะออกมาช้า แถมอีกไม่นานเจ้าตลาดกำลังจะเปิดรุ่นใหม่อีก ทำให้เสียโอกาสในการขาย
ออล-นิว ไทรทัน ซิงเกิ้ล แค็บ ตัวเตี้ย (All-New Mitsubish
i Triton Single Cab Low Rider) มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นโปร (Pro) รุ่นแอคทีฟ (Active) และรุ่นแอคทีฟ เฉพาะแค็บและแชสซีส์ (Active with only cab & chassis) วางจำหน่ายที่ราคาเริ่มต้น 565,000 บาท
ออล-นิว ไทรทัน เมกะ แค็บ ตัวเตี้ย (All-New Mitsubish
i Triton Mega Cab Low Rider) มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นโปร (Pro) และรุ่นแอคทีฟ (Active) วางจำหน่ายที่ราคาเริ่มต้น 622,000 บาท
ออล-นิว ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ โปร ตัวเตี้ย (All-New Mitsubish
i Triton Double Cab Low Rider Pro) มีราคาจำหน่ายที่ 712,000 บาท
ออล-นิว ไทรทัน เมกะ แค็บ พลัส (All-New Mitsubish
i Triton Mega Cab Plus) ตอนครึ่ง ยกสูง มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นอัลตรา (Ultra) รุ่นไพรม์ (Prime) และรุ่นโปร (Pro) วางจำหน่ายที่ราคาเริ่มต้น 740,000 บาท