Mitsubish
i Triton 2023 เปิดตัวครั้งแรกของโลก พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่แรกของโลก ซึ่งทาง Mitsubish
i ประกาศชัดว่า นี่คือการปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ของทางค่าย ที่มีการอัปเกรดใหม่ทั้งคัน ตั้งแต่ตัวแชสซีส์ ช่วงล่าง เครื่องยนต์ รวมไปถึงมิติตัวถังที่ใหญ่โตขึ้น เพื่อเอามาสู้กับคู่แข่งในตลาดที่เปลี่ยนโฉมแบบ Next-Gen กันหลายต่อหลายรุ่น แต่จะสู้ได้หรือเปล่า? หลังจากที่ได้ไปลองขับมาแล้ว ไปหาคำตอบ
กัน
อย่างที่คุณได้เห็นพาดหัวของเรา การปรับใหม่ครั้งนี้ของ Mitsubish
i Triton 2023 มีรายละเอียดที่เยอะมาก จุดมุ่งหมายเพื่อกลับมาทวงคืนอันดับ 3 ของตลาดกร
ะบะประเทศ
ไทยจาก Ford Ranger และเป็นมาตรฐานใหม่ของ Mitsubish
i L200 ที่ส่งออกไปขายทั่วโลก
แต่ทว่าหากดูจากสเปคแล้ว ยังคงเป็นรองคู่แข่งอยู่ดี เพียงแต่ขยับอัพเกรดขึ้นมาให้สู้กันได้อย่างสูสีเท่านั้น เว้นแต่ว่าคุณจะได้ไปทดลองขับจริง ถึงจะรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันดีขึ้นกว่าเดิมมากขนาดไหน
ในส่วนของสเปค และรายละเ
อียดของตัวรถในบทความนี้ขอไม่บรรยายเยอะให้เสียเวลาอ่าน เพราะคุณสามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่บทความเปิดตัวครั้งแรกของโลกได้ที่
All-NEW Mitsubish
i TRITON 2.4 VG TURBO 184 แรงม้า ราคาเริ่ม 6.99 แสนบาท
สิ่งที่ทำให้ Mitsubish
i Triton ใหม่ ยังไม่สุดดังที่พาดหัว คือแนวทางการทำตลาดที่ครั้งนี้ Mitsubish
i มาแปลก เลือกเปิดตัวรุ่นรองท็อปออกมาขายก่อน ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร VG Turbo (เทอร์โบเดี่ยว) กำลัง 184 แรงม้า ในขณะที่รุ่นท็อปสุดขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่อง Turbo คู่ 204 แรงม้า จะตามออกม
าขายทีหลัง นั่นจึงทำให้ใครหลายคนที่กำลังรอรถกระบะตัวแรงจาก Mitsubish
i ต้องรอเก้อ แถมยังปล่อยให้คู่แข่งโกยยอดขายต่อไปอีกตั้งหลายเดือน
ตัวแรงยังไม่มาไม่เป็นไร วันนี้เรามาว่ากันที่รุ่นท็อปสุดที่มีขายในเวลานี้กันก่อนละกัน กับรุ่น Plus 2.4 Ultra AT เจ้าของค่าตัว 1.027 ล้านบาท ซึ่งเป็นรุ่นขับ 2 ยกสูง เกียร์ 6 สปีดอัตโนมัติ
เครื่องยนต์บล็อคใหม่ แรงสุดในตัวรองท็อป
แม้จะเปลี่ยนเครื่องยนต์ตัวรอง แต่ก็เป็นเครื่องยนต์ตัวรองที่แรงที่สุดในตลาด หากเทียบกับคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Ford Ranger ในรุ่น 2.0 Turbo (เทอร์โบเดี่ยว) รายนั้นมีกำลังที่ 170 แรงม้า แรงบิด 405 นิวตัน-เมตร
แต่ Mitsubish
i Triton 2023 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ Hyper Power ขนาด 2.4 ลิตร VG Turbo ให้กำลัง 184 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และขับเคลื่อนล้อหลังเหมือนกัน
พอได้ลองขับจริง ต้องบอกว่าคาแร็คเตอร์ของอัตราเร่งมีความสมูท ขึ้นแบบผู้ดี และนุ่มนวลกว่าเดิมเยอะ ไม่กระโฉกโฮกฮากเหมือนรถกระบะยุคก่อน แต่ยังคงมีอาการ Turbo Lag รอบูสต์อยู่นิดนึง ซึ่งเครื่องยนต์ใหม่รหัส 4N16 นี้ มีการอัปเกรดใหม่ดังนี้
ใหม่ ระบบปั๊มฉีดน้ำมันดีเซลคอมมอนเรล Gen 4.5
เพิ่มระบบวาล์วระบายแรงดันน้ำมันเครื่อง
เครื่องยนต์อลูมินัมอัลลอย
ระบบเทอร์โบแปรผัน VG Turbo
โซ่ไทม์มิ่งใหม่
จุดเด่นคือ มีกำลังแรงม้าสูง และมีแรงบิดมาให้ใช้ในรอบต่ำ 2,250 – 2,500 รอบ/นาที ซึ่งเร่งแซงได้ทันใจ และทำความ
เร็วลอยตัวได้ดี ไม่ตื้อ เพราะเทอร์โบลูกนี้เป็นเทอร์โบไฟฟ้าแปรผันได้ ดูแล้วน่าจะเอาไปโมดิฟายต่อยอดได้อีกเยอะ แต่ยังไงซะก็ยังอยากลองเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ 204 แรงม้าอยู่ดี
ช่วงล่างดีขึ้นแบบตะโกน นั่งสบายเหมือน SUV
ระบบช่วงล่างถือเป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้ Mitsubish
i Triton 2023 ดูโดดเด่นกว่ารถกระบะรุ่นอื่นๆ ในตลาด อาการดีดดิ้นแบบตัวถัง Body on Frame ยังพอมีอยู่บ้างหากคุณนั่งโดยสารที่เบาะหลัง แต่ถ้าเปลี่ยนมานั่งหน้า หรือเป็นผู้ขับ คุณจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวล นั่งสบาย ดุจรถ Passenger Car หรือ SUV เลยทีเดียว
การซับแรงสะเทือนทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก รวมถึงการยุบ และคืนตัวของโช้คอัพ ไม่ดีดเด้งเหมือนกระบะยุคก่อนแบบรู้สึกได้ ซึ่งทาง Mitsubish
i ตั้งใจพัฒนาคาแร็คเตอร์ของแต่ละบอดี้มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันไป ซึ่งในรุ่นขับ 2 ยกสูง หรือตัวถังแบบ 4 ประตู Double Cab จะถูกเซ็ตเอาไว้ให้เป็นแบบรถยนต์นั่งเป็นหลัก ส่วนตัวถังอื่นๆ ที่เน้นใช้งานบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ จะมีรูปแบบการเซ็ตอัปช่วงล่างที่เหมาะกับการรองรับน้ำบรรทุกที่มากกว่านี้
เก็บเสียงดีขึ้น แต่เบาะหลังนั่งชันกว่าเดิม
ในเรื่องของการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารถือว่าทำได้ดี เสียงรบกวนต่ำลงกว่ารุ่นก่อนชัดเจน แถมมีทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีขึ้น จากการออก
แบบถอยเสา
A มาด้านหลัง และฝากระโ
ปรงหน้าแบบ Flat ราบลงไปไม่เกะกะสายตา หากคุณเป็นผู้ขับจะรู้สึกรัก All New Mitsubish
i Triton แต่ถ้านั่งโดยสารตอนหลัง อาจไม่ได้นั่งสบายเหมือนเดิม เพราะองศา
ของเบาะนั่งมันตั้งชันพอสมควร
ระบบความป
ลอดภัยตัดออก รอใส่ในรุ่นท็อป
จุดนี้เป็นจุดที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ในเมื่อติดตั้งระบบ ADAS แบบ Diamond Sense มาให้แล้ว ใยเลยจึงตัดระบบ Cruise Control ออก และระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ ก็ดูจะกั๊กๆ กลัวรุ่นท็อปที่จะตามมาไม่โดดเด่น ซึ่งราคาค่าตัวที่ตั้งไว้ก็ดูเหมือนจะไม่กั๊กด้วย เพราะทะลุ 1 ล้านบาทเข้าไปแล้ว
ซึ่งปกติแล้วแพ็คเกจ ADAS ที่ติดตั้งมานั้น จะมีระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ครบครันอยู่แล้ว เพราะมีกล้องที่กระจกหน้าทำงานร่วมกับเรดาร์ด้านหน้า และเซ็นเซอร์หน้า-หลัง ซึ่งจะมาครบทุกแพ็คเกจ แต่การที่ไม่มีแม้แต่ระบบ Cruise Control มันเลยทำให้เรารู้ได้ว่า Mitsubish
i ตั้งใจถอดปลั๊กออก
สรุปว่าดีขึ้นทุกมิติ แต่ยังไม่สุด
คำว่าดีขึ้นทุกมิติ คือดีขึ้นทุกมิติจริงๆ ทั้งในเรื่องของตัวถังที่ใหญ่โตขึ้น พื้นที่ท้ายกระบะกว้างยาวขึ้น ดีไซน์ที่ดูแข็งแกร่งบึกบึนยิ่งขึ้น และสมรรถน
ะการขับขี่ รวมถึง Handling ต่างๆ ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่ยังไม่สุด!!
เพราะตอนนี้ All New Mitsubish
i Triton มีทำตลาดอยู่เพียง 8 รุ่นย่อยเท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้วต้องมีทั้งหมดถึง 21 รุ่นย่อย โดยจะแบ่งออกเป็น 7 เซกเมนต์หลัก โดยจะมีรุ่นเครื่องยนต์ 204 แรงม้า และ 150 แรงม้า ตามออกมาข
าย ซึ่งก็ต้องรอดูกันว่าเมื่อมาครบทั้งไลน์อัพทั้ง 3 เครื่องยนต์แล้ว จะเบียดแย่งอันดับ 3 กลับมาได้หรือไม่? เพราะนี่แค่จุดเริ่มต้นของ Mitsubish
i Triton 2023 เท่านั้น!!
มิตซูบิชิ ไทรทัน 2024: Mitsubish i Triton 2023 ปรับใหม่ครั้งนี้แค่สูสีกับคู่แข่ง แต่ยังไม่เหนือกว่า อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/car/mitsubishi/triton/