ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี โปรโมทสินค้าฟรี ซื้อ ขาย เช่า บริการ ลด แลก แจก แถม

หมวดหมู่ทั่วไป => ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี โปรโมทสินค้าฟรี ซื้อ ขาย เช่า บริการ ลด แหล่งรวม ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี โปรโมทสินค้าฟรี ซื้อ ขาย เช่า บริการ => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 3 ตุลาคม 2025, 17:09:03 น.

หัวข้อ: ตรวจโรคความดันตกในท่ายืน (Orthostatic Hypotension หรือ Postural Hypotension)
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 3 ตุลาคม 2025, 17:09:03 น.
ตรวจโรคความดันตกในท่ายืน (Orthostat ic Hypotensi on หรือ Postural Hypotensi on) (https://doctorathome.com/symptom-checker)

ความดันตกในท่ายืน (Orthostat ic Hypotensi on หรือ Postural Hypotensi on) คือภาวะที่ความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็วและผิดปกติ เมื่อเปลี่ยนท่าทางจากท่านอนหรือท่านั่งเป็นท่ายืน

ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อระบบประสาทอัตโนมัติของร่างกาย (Autonomic Nervous System) ไม่สามารถปรับตัวได้ทันท่วงที โดยปกติเมื่อเราลุกขึ้นยืน แรงโน้มถ่วงจะดึงเลือดส่วนหนึ่งให้ไหลลงไปรวมกันที่ขาและช่องท้อง ร่างกายปกติจะตอบสนองด้วยการบีบตัวของหลอดเลือดและเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อดันเลือดกลับไปเลี้ยงสมองให้เพียงพอ แต่ในผู้ที่มีภาวะนี้ กลไกดังกล่าวทำงานล้มเหลว ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอชั่วขณะ

เกณฑ์การวินิจฉัย
ทางการแพท ย์จะวินิจฉัยภาวะความดันตกในท่ายืน เมื่อมีการวัดความดันโลหิตในขณะนอนและวัดซ้ำอีกครั้งภายใน 3 นาทีหลังลุกยืน แล้วพบว่า:

ความดันตัวบน (Systolic Blood Pressure) ลดลง มากกว่าหรือเท่ากับ 20 มิลลิเมตรปรอท (mmHg)

และ/หรือ ความดันตัวล่าง (Diastolic Blood Pressure) ลดลง มากกว่าหรือเท่ากับ 10 มิลลิเมตรปรอท (mmHg)


อาการที่พบบ่อย

อาการมักเกิดขึ้นทันทีที่ลุกขึ้นยืน และมักหายไปเองภายในเวลาไม่กี่วินาทีหรือนาทีเมื่อได้นั่งหรือนอนลง:

หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ หรือมึนงงคล้ายจะเป็นลม (Dizziness/Lightheadedness)

ตาพร่ามัว หรือตาลายชั่วขณะ

รู้สึกเซ หรือสูญเสียการทรงตัว

รู้สึกอ่อนแรง หรือเหนื่อยง่าย

คลื่นไส้ หรือมีอาการใจสั่นร่วมด้วย

เป็นลมหมดสติ (Syncope): หากความดันโลหิตลดลงมากและนานพอ


สาเหตุหลัก
ภาวะความดันตกในท่ายืนเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งแบบชั่วคราวและแบบเรื้อรัง:


1. ปริมาตรน้ำในร่างกายน้อยลง (Volume Depletion)
เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด มักทำให้เกิดอาการชั่วคราว:

ภาวะขาดน้ำ (Dehydrati on): เช่น ดื่มน้ำไม่เพียงพอ, ท้องเสีย, อาเจียนรุนแรง, ไข้สูง

ภาวะตกเลือด: เช่น เลือดออกในระบบทางเดินอาหาร

การใช้ยาขับปัสสาวะ


2. ปัญหาเกี่ยวกับยา (Medicatio n Side Effects)
ยาบางชนิดอาจรบกวนการทำงานของระบบควบคุมความดันโลหิต:

ยาลดความดันโลหิต หรือยาขับปัสสาวะ

ยารักษาโรคหัวใจบางชนิด

ยารักษาโรคพาร์กินสัน

ยาต้านอาการซึมเศร้าบางชนิด


3. โรคที่ส่งผลต่อระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous System Dysfuncti on)
เป็นสาเหตุของภาวะเรื้อรัง มักพบบ่อยในผู้สูงอายุ:

โรคเบาหวา น: ที่ทำให้เส้นประสาทถูกทำลาย (Diabetic Neuropath y)

โรคพาร์กินสัน (Parkinson's Disease)

ภาวะไขสันหลังบาดเจ็บ

กลุ่มอาการกิลเลน-บาร์เร (Guillain-Barré Syndrome)


4. ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ
หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหัวใจวาย

ภาวะหลอดเ ลือดแดงแข็ง (Atheroscl erosis)

การจัดการและการป้องกัน
สำหรับภาวะที่ไม่รุนแรงและเป็นครั้งคราว สามารถจัดการและป้องกันได้ด้วยตนเอง:

เปลี่ยนท่าช้า ๆ: เป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด ไม่ควรลุกขึ้นยืนทันที หลังตื่นนอนหรือหลังนั่งนาน ๆ ควรปฏิบัติดังนี้:

ค่อย ๆ ขยับตัวและยกศีรษะขึ้น

นั่งห้อยขาที่ขอบเตียงประมาณ 1-2 นาทีก่อน

ค่อย ๆ ยืนขึ้นช้า ๆ

เพิ่มการดื่มน้ำและเกลือ: ดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดวัน เพื่อช่วยเพิ่มปริมาตรเลือด (ปรึกษาแพทย์ก่อนเพิ่มเกลือ โดยเฉพาะถ้ามีโรคความดันโลหิตสูง)


หลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้น:

หลีกเลี่ยงการยืนนิ่ง ๆ เป็นเวลานาน

หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ขาดน้ำ

รับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ บ่อยขึ้น และหลีกเลี่ยงอาหารคาร์โบไฮเดรตสูงมื้อใหญ่ เพราะอาจท ำให้ความดันโลหิตลดลงหลังอาหารได้


ใช้อุปกรณ์ช่วย:

สวมถุงน่องรัดขาแบบบีบอัด (Compressi on Stockings): เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เลือดไปรวมตัวที่ขามากเกินไป

ยกศีรษะเตียงให้สูงขึ้นเล็กน้อย (Head-up Tilt): ช่วยให้ร่างกายปรับตัวกับการยืนได้ง่ายขึ้น

หากอาการรุนแรง เป็นบ่อย หรือสงสัยว่าเกิดจากโรคอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ แพทย์อาจทำการปรับยาเดิมที่ใช้อยู่ หรือพิจารณาให้ยาที่ช่วยเพิ่มความดันโลหิตตามความจำเป็นต่อไป