ก่อนที่จะเซ็นรับโอนกรรมสิทธิ์บ้านจากผู้ขาย ผู้ซื้อมีเรื่องต้องตรวจสอบหลายอย่าง เพื่อให้ได้รับมอบบ้านที่มีความสมบูรณ์เรียบร้อย ไม่ทำให้เกิดสารพัดปัญหาตามมาภายหลัง ซึ่งวันนี้จะมาแนะนำ Checklist 9 จุดสำคัญ ตรวจรับบ้านก่อนโอน โดยจะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลย
ทำไมต้องตรวจรับบ้านก่อนโอน?
การตรวจบ้านก่อนเซ็นรับโอนกรรมสิทธิ์ เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ต้องใช้ความละเอียดถี่ถ้วนในการหาจุดบกพร่องของบ้าน เพื่อแจ้งให้โครงการหรือผู้ขาย แก้ปัญหาให้เรียบร้อยก่อนโอนรับกรรมสิทธิ์ เพราะถ้าเราไม่ตรวจให้ดีก่อน เมื่อรับบ้านมาแล้วเจอจุดบกพร่องเหล่านั้นเราต้องเสียเงินแก้ไขเอง หรือบางกรณีตรวจเจอปัญหาแล้วแต่โครงการให้เซ็นรับมอบไปก่อนโดยสัญญาปากเปล่าว่าจะแก้ไขให้ภายหลัง ทีนี้เจ้าของบ้านก็ว้าวุ่นเลย ต้องมาตามทวงสัญญาอย่างยุ่งยาก ดังนั้นเพื่อรักษาสิทธิ์และอำนาจต่อรอง ก่อนตกลงเซ็นรับบ้านเราจึงต้องตรวจสอบเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้ให้ดี
จุดที่ 1 พื้นที่นอกตัวบ้าน
ด่านแรกสุดที่ต้องตรวจสอบก่อนใครเพื่อน เพราะเข้ามาแล้วเราจะเห็นพื้นที่นี้ก่อนเลย โดยแบ่งรายละเอียดปลีกย่อย ดังนี้
ประตูรั้ว : หากเป็นบานพับจะต้องเปิดปิดได้สะดวกไม่ฝืดเคือง ไม่มีเสียงเสียดสีของสนิม งานสีต้องทาเรียบร้อยครบทั้งบาน ไม่มีส่วนที่เห็นเนื้อวัสดุหรือขึ้นสนิม กลอนประตูสามารถใช้การได้ดี แต่ถ้าเป็นเเบบเลื่อนให้เราเปิดค้างไว้แล้วดูว่ามันหยุดอยู่ตรงนั้น ไม่เลื่อนไหลเองใช่หรือไม่
รั้ว : รั้วต้องตั้งตรง ไม่เอียง ไม่ล้ม ไม่มีรอยแตกร้าว สีหรือวัสดุพื้นผิวจะต้องเรียบร้อยสวยงาม ไม่มีคราบความสกปรกจากการก่อสร้างติดอยู่
ดินถมรอบบ้าน : ดินที่ถมต้องถมเต็มพื้นที่ คือมีการปรับระดับของดินบริเวณรอบบ้านจนเรียบหรือเป็นเนินสวยงาม ไม่มีเศษวัสดุก่อสร้างหรือคราบปูนหลงเหลือ
หญ้าและต้นไม้ : หากโครงกา
รสัญญาว่าจะปลูกหญ้าและต้นไม้ในบริเวณบ้าน ควรสั่งให้ปลูกหลังจากตรวจบ้านและเราใกล้เข้ามาอยู่แล้ว ที่สำคัญต้องตรวจสอบให้ดีว่าเขานำพลาสติกที่ห่อต้นไม้หรือดินออกแล้วหรือยัง
การระบายน้ำรอบที่ดิน : ตรวจสอบว่าบ้านมีรางระบายน้ำหรือจุดสำหรับระบายน้ำอยู่รอบที่ดินในทิศทางที่จะไม่ไหลย้อนกลับเข้าตัวบ้านหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องดูท่อระบายน้ำต่อคือ ต้องมีบ่อพักและฝาเปิดเพื่อทำการซ่อมบำรุงทุกระยะ 12 เมตร ดีที่สุดควรเข้าไปตรวจสอบทันทีหลังฝนหยุดตก จะได้เห็นของจริงว่าเป็นอย่างไร
ที่จอดรถ : ตรวจสอบคว
ามลาดเอียงของพื้นให้อยู่ในองศาที่พอเหมาะ เพื่อป้องกันน้ำขังจากฝนสาดหรือน้ำล้างรถ อีกทั้งพื้นผิวก็ต้องเรียบเสมอไม่มีผิวขรุขระ และก่อสร้างด้วยปูนซีเมนต์เพื่อความเเข็งแรงรองรับน้ำหนักรถได้ดี
ผนังภายนอก : ตรวจสอบรอ
ยแตกร้าวทั้งจากการฉาบปูนและการทาสี ซึ่งสีจะต้องเรียบเนียนสม่ำเสมอ ไม่มีร่องรอยขูดสีให้เห็น หากเป็นวัสดุบุผนังอื่น ๆ จะต้องไม่แตกบิ่นหรือบวมให้เห็น
ระเบียงหรือเฉลียงนอกบ้าน : ให้ดูวัสดุปูพื้นว่ามีความเรียบร้อยสวยงาม ไม่ลื่นเวลาเปียกน้ำ และน้ำจะต้องไหลออกนอกตัวบ้านเสมอเวลาฝนตกหรือมีน้ำไหลนองอยู่
จุดที่ 2 โครงสร้าง
ตามหลักแล้วการตรวจสอบโครงสร้างบ้านต้องดูกันระหว่างขั้นตอนก่อสร้าง แต่ปัจจุบันหลายคนมักเลือกซื้อบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่มากกว่า การตรวจโค
รงสร้างจึงทำได้ไม่ละเอียดนักเพราะถูกปกปิดด้วยการตกแต่งส่วนต่างๆ ไปแล้ว อย่างไรก็ดีเรายังมีวิธีตรวจสอบจุดต่างๆ ได้อยู่
เสาและคาน
ส่วนของโครงสร้างเหล็ก : เสาดีบ้านก็แข็งแรงตาม เสาจึงต้องไม่มีรอยแตกร้าว ไม่มีรอยแยกระหว่างเสากับผนัง รวมถึงรูปแบบของเสาก็ไม่ควรแอ่นหรือโค้งผิดรูปแม้แต่นิดเดียว
พื้น : พื้นต้องเรียบสม่ำเสมอ ไม่แอ่นหรือป่องขึ้นมาให้สะดุดเท้าเลย
เสาเอ็นและทับหลังรอบวงกบประตูหน้าต่าง : ไม่มีรอยแตกร้าวที่มุมวงกบประตูและหน้าต่าง
โครงสร้างเหล็กรับหลังคา : ให้ตรวจดูการเชื่อมต่อโครงเหล็กว่ามีความมั่นคงแข็งแรงหรือไม่ ไม่แอ่นเอียงแบบผิดปกติ ระยะห่างระหว่างระแนงกับกระเบื้องต้องเท่ากันสม่ำเสมอ และต้องมีการทาสีเคลือบกันสนิมทั่วบริเวณ
โครงสร้างไม้ฝ้าเพดาน : เนื้อไม้ต้องมีการเคลือบน้ำยาป้องกันปลวกทั่วทุกด้าน ไม่มีรอยผุหรือกัดแทะของแมลง
จุดที่ 3 หลังคา
หน้าที่ของหลังคาคือการบังแดดและฝน จึงต้องตรวจสอบว่าหลังคาอยู่ในสภาพดีหรือไม่ โดยทำการต
รวจสอบหลังฝนตกหมาดๆ จะดีที่สุด เพราะเราส
ามารถมองห
าจุดรั่วซึมได้ง่าย แต่หากไม่สามารถรอให้ฝนตกได้ก็ลองฉีดน้ำใส่แทน หรือสังเกตจากคราบน้ำฝนที่ตกลงมา ซึ่งจุดสำคัญของหลังคาที่ควรตรวจสอบ ดังนี้
ชายคา : กระเบื้องทุกแผ่นติดตั้งอย่างแข็งแรง รอยต่อของวัสดุทำชายคาเชื่อมต่ออย่างเรียบร้อย ขอบชายคาไ
ด้แนวตรงทุกด้าน
ฝ้าเพดานใต้ชายคา : ใช้วัสดุกันน้ำ ไม่มีคราบน้ำรั่วซึม ไม่มีรอยแตกแม้แต่นิดเดียว มีการติดตั้งเรียบร้อย ทาสีเรียบเนียนสม่ำเสมอ
ช่องระบายอากาศ : เรียบร้อยไม่คดงอ หากมีการเจาะรู ขนาดรูก็ต้องเท่ากันสม่ำเสมอ และควรมีการติดตั้งมุ้งลวดใต้หลังคาเพื่อกันแมลงและสัตว์เล็กด้วย
กระเบื้องหลังคา : ติดตั้งสวยงามได้แนวตรง ผูกลวดยึดเกาะกันอย่างแข็งแรง สีกระเบื้องสม่ำเสมอตรงตามที่กำหนดไว้
การรั่วซึมของหลังคา : ฝ้าใต้หลังคาต้องไม่มีคราบน้ำรั่วซึม กระเบื้องปูหลังคาแต่ละเเผ่นต้องแนบสนิท มองจากภาย
ในบ้านแล้วไม่เห็นรูแสงผ่านเข้ามาเลย
จุดที่ 4 พื้น
พื้นคือส่วนที่เราสัมผัสมากที่สุดของบ้าน เราจึงตรวจสอบให้เรียบร้อยที่สุดผ่านการมองและการสัมผัส โดยมีจุดสำคัญที่ควรดูให้ละเอียด ดังนี้
พื้นผิวในตัวบ้าน : ควรเรียบเนียนสม่ำเสมอ เดินไม่สะดุด ไม่นูน โก่งตัว หรือยุบเป็นโพรงใต้กระเบื้อง และหากส่วนนั้นไม่ใช่ส่วนที่ต้องระบายน้ำ บริเวณนั้นต้องไม่เป็นแอ่ง
พื้นผิวส่วนเปียก : ในส่วนพื้นห้องน้ำ พื้นลานจอดรถ พื้นลานซักล้าง พื้นเฉลียงภายนอก จุดเหล่านี้ต้องมีความลาดเอียงพอเหมาะกับการระบายน้ำ และต้องไม่มีน้ำขังเป็นแอ่งให้เห็น
บันได : ลูกนอนและลูกตั้งของบันไดต้องเท่ากันทุกขั้น แต่ละขั้นต้องได้ฉากและได้แนว เวลาเดินขึ้นลงต้องไม่ส่งเสียงดัง วัสดุเคลือบผิวเรียบร้อย ติดตั้งราวกันตกอย่างมั่นคงแข็งแรง
การปูพื้นหรือติดตั้งวัสดุบุผิว : พื้นไม้ พื้นลามิเนต พื้น SPC พื้นไวนิล หินอ่อน หินแกรนิต กระเบื้องแกรนิโต้ กระเบื้องเซรามิค รวมถึงพรม รอยต่อทั้งหมดต้องสนิทดี มีความเรียบเนียนเสมอกัน ไม่มีคราบน้ำหรือความชื้นจากภายใน ยาแนวที่ใช้ก็ต้องผสมสารกันซึมและเชื้อราอย่างดี สีสม่ำเสมอถูกต้องตามแบบ ไม่มีคราบสกปรก
จุดที่ 5 ผนัง
บริเวณผนังเป็นส่วนที่มีพื้นผิวมากที่สุดของบ้าน จึงควรมีการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ดังนี้
ระดับผิวหน้าผนัง : ต้องได้ดิ่งและได้ฉาก ผิวปูนฉาบหนังต้องเรียบสม่ำเสมอ ไม่มีสวนที่ปูดออกหรือยุบเป็นหลุม ไม่มีรอบแตกร้าว ทาสีเรียบเนียนสม่ำเสมอ
รอยต่อระหว่างพื้น ผนัง เพดาน : ต้องแนบสนิท ไม่มีรอยแตกระหว่างผนังกับพื้นและเพดาน
วัสดุบุผนัง : วิธีสังเกตจะเหมือนกับวัสดุปูพื้น คือเรียบเนียบเสมอกัน สีสม่ำเสมอถูกต้องตามแบบ ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาคือบัวพื้น บัวเชิงผนัง และบัวฝ้าเพดาน ต้องติดตั้งแนบสนิบไม่โก่งหรือคดงอ ได้ระดับเท่ากันทั้งห้อง
จุดที่ 6 ฝ้าเพดาน
แม้จะอยู่สูงจากการสัมผัส แต่ไม่ควรละเลยการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยทั่วไปฝ้าเพดานจะใช้วัสดุ 3 ชนิด ได้แก่ ยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบ ฝ้าทีบาร์ และฝ้าแผ่นกระเบื้องซีเมนต์ โดยมีจุดสังเกต ดังต่อไปนี้
ระดับของฝ้า : มีรับดับเท่ากันทั้งห้อง ไม่ตกท้องช้างหรือเว้าขึ้นบน ขอบฝ้าอยู่ในระดับตรง และควรมีช่องเซอร์วิสสำหรับเปิดขึ้นไปตรวจสอบใต้หลังคาด้วย
การเชื่อมต่อฝ้า : หากเป็นฝ้ายิปซั่มบอร์ดฉาบต้องเรียบไม่เห็นรอยต่อ, ส่วนฝ้าทีบาร์เส้นทีบาร์ต้องตรงได้ระดับไม่คดงอ แผ่นฝ้าที่ใส่ช่องทีบาร์ทั้งหมดต้องเป็นมุมฉาก, ขณะที่ฝ้าแผ่นกระเบื้องซีเมนต์ รอยต่อต้องมีขนาดสม่ำเสมอและเป็นเส้นตรง
สีฟ้าเพดาน : สีต้องเรียบเนียบสวยงาม ไม่มีคราบสกปรกหรือรอยต่าง ๆ ให้เห็น
จุดที่ 7 ช่องเปิด
ช่องเปิดคือช่องต่างๆ ที่เปิดออกจากตัวบ้าน ได้แก่ ช่องประตู, ช่องหน้าต่าง, ช่องแสง, ช่องระบายอากาศ, บานเกล็ด, ผนังอิฐแก้ว ฯลฯ โดยมีจุดที่ต้องตรวจสอบ ดังนี้
กรอบของช่องเปิด : กรอบของทุกช่องเปิดต้องได้แนวและระดับ ได้ฉากและมีขนาดที่ถูกต้อง เปิดปิดได้สะดวก ไม่มีช่องว่างระหว่างบานกรอบกับวงกบ มีการทำทับหลังและเสาเอ็น
กระจก : ไม่มีรอยแตกร้าว รอยขีดข่วน กดดูแล้วไม่หลุดออกจากบานหรือโก่งจนเหมือนจะแตกออกมา อีกอย่างตรงรอยต่อระหว่างกระจกกับบานหรือวงกบก็ต้องแนบสนิทด้วย
อุปกรณ์ต่างๆ : มีการใช้งานได้ดี ลงกลอนได้สุดทุกตัว มือจับและลูกบิดติดตั้งแข็งแรง ไม่หลวมหลุดเมื่องออกแรงดึง
จุดที่ 8 ไฟฟ้า
การตรวจสอ
บระบบไฟฟ้ามีตั้งแต่ระดับง่ายที่เราเจ้าของบ้านสามารถตรวจสอบได้เอง ไปจนถึงระดับยากที่ต้องอาศัยความรู้เชิงช่างประกอบ ซึ่งมีรายละเอียดคร่าวๆ ให้ตรวจสอบ ดังนี้
ปลั๊กไฟฟ้า : มีการใช้งานได้ทุกจุด ฝาครอบไม่หมองคล้ำหรือมีรอยดำ ให้ดีสุดคือ ควรตรวจสอ
บด้วยไขควงวัดไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า ที่สำคัญอย่าลืมลองกดกริ่งหน้าบ้านดูด้วยว่าใช้งานได้หรือไม่
สวิตช์ไฟฟ้า : เปิดปิดสะดวก ไม่สะดุด และควรลอง
เปิดปิดแรง ๆ หลายครั้งเพื่อดูความแข็งแรง ส่วนฝาครอบนั้นต้องไม่หมองคล้ำหรือมีรอยดำให้เห็น
ไฟแสงสว่าง : หลอดไฟฟ้าทุกดวงในและนอกบ้านต้องเปิดได้หมด ที่สำคัญต้องไม่มีคราบดำเลย
การเดินสายไฟฟ้า : ต้องเดินเรียบร้อยสวยงาม ในส่วนของแบบลอยต้องมีการตีกิ๊บเรียบร้อย ไม่หลุดร่วงให้เกะกะ อีกทั้งบริเวณมุมก็ต้องเข้ามุมสวยงาม ไม่มีบริเวณใดของสายไฟที่เป็นรอยคล้ำหรือดำให้เห็น
สายดิน : ทุกปลั๊กไฟฟ้าต้องเดินสายดินให้เรียบร้อย และต้องสอบถามว่าได้ฝังแท่งเหล็กสายดินไว้ตรงไหน เราต้องทราบจุดฝังให้ชัดเจน
อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ : บางโครงกา
รบ้านหรือคอนโดจะแถมเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐานอย่าง เครื่องปรับอากาศ, พัดลมดูดอากาศ, เครื่องดูดควัน, เตาไฟฟ้า, เครื่องทำน้ำอุ่น ฯลฯ ดังนั้นต้องทดลองใช้อุปกรณ์ดังกล่าวก่อน เพื่อตรวจดูการใช้ไฟว่าปกติดีหรือไม่ ที่สำคัญต้องมีใบรับประกันอุปกรณ์ทุกชิ้นให้เราด้วย
จุดที่ 9 สุขาภิบาล
ระบบนี้จะเกี่ยวกับเรื่องน้ำทั้งหมดในบ้าน ซึ่งมีจุดสำคัญที่ต้องตรวจสอบ ดังนี้
การติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ : ต้องติดตั้งในตำแหน่งที่ถูกต้อง ได้ระนาบและได้ฉาก มีความมั่นคงแข็งแรง ผิวสุขภัณฑ์เรียบเนียนไม่มีรอยด่างหรือคราบสกปรก
ก๊อกน้ำ : สามารถใช้งานได้ดี เปิดปิดไม่ติดขัดหรือหลวมไป น้ำไหลสะดวกและไม่เบาผิดปกติ เมื่อปิดก๊อกแล้วต้องไม่มีน้ำหยดซึมเลย
อ่างล้างหน้าและอ่างอาบน้ำ : ติดตั้งในตำแหน่งและระดับความสูงที่ถูกต้อง ช่องน้ำล้นและสะดือสามารถระบายน้ำได้ดี พื้นผิวเรียบเนียน สะอาดไม่มีคราบสกปรก
จุดระบายน้ำที่พื้น : สามารถระบ
ายน้ำได้ดีในเวลาที่รวดเร็ว โดยที่ระบายน้ำนั้นก็ควรมีถ้วยดักกลิ่นหรือติดตั้งระบบดักกลิ่นไว้เพิ่มด้วย
ระบบท่อ : ทุกจุดของท่อและข้อต่อต้องไม่มีรอยรั่วของน้ำ เมื่อปิดระบบน้ำทั้งหมดแล้วมิเตอร์ต้องไม่เดินเลย
โถส้วม : เมื่อกดน้ำแล้วสามารถชำระสิ่งปฏิกูลได้เป็นอย่างดี ยาแนวที่ฐานมีความเรียบร้อย และไม่มีฟองอากาศเกิดขึ้นเมื่อใช้งาน ที่สำคัญต้องไม่มีฟองอากาศผุดขึ้นในโถนั้น ๆ เมื่อใช้งานโถส้วมห้องน้ำอื่น
ทั้งหมดนี้คือ 9 จุดสำคัญที่เราต้องตรวจสอบให้ดีก่อนตกลงโอนกรรมสิทธิ์บ้าน ทุกจุดต่างสำคัญและเราต้องตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วน แบบทุกซอกทุกมุมไปเลยค่ะ เพราะเวลา
รับโอนแล้วจะได้มีความสุขไม่ต้องลำบากแก้ไขบ้านทีหลัง แม้ปัจจุบันจะมีบริษัทรับจ้างตรวจสอบบ้านโดยวิศวกรหลายแห่งพร้อมให้บริการ แต่ผู้ซื้อบ้านก็ควรมีความเข้าใจคร่าวๆ ไว้บ้าง เวลาตรวจส
อบจะได้เป๊ะยิ่งขึ้น
บ้านสวยโคราช: Checklist 9 จุดสำคัญ ตรวจรับบ้านก่อนโอน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊ดที่นี่ https://homes-realestate.com/home1/