ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี โปรโมทสินค้าฟรี ซื้อ ขาย เช่า บริการ ลด แลก แจก แถม

โพสฟรี => smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ => ข้อความที่เริ่มโดย: waanbotan_ ที่ วันที่ 20 ตุลาคม 2023, 18:21:07 น.

หัวข้อ: แนะวิธีเตรียมเอกสารเพื่อ เปิดบัญชีให้ลูก พร้อมเปรียบเทียบผลตอบแทนจากธนาคารต่าง ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: waanbotan_ ที่ วันที่ 20 ตุลาคม 2023, 18:21:07 น.
การวางแผน อนาคตในด้านต่าง ๆ ให้กับลูก นอกจากจะเ ป็นหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองแล้วก็ยังถือเป็นความเต็มใจอย่างที่สุดของพ่อแม่ผู้ปกครองอีกด้วย ดังนั้นการเลือกบัญชีธนาคารเพื่อจะ เปิดบัญชีให้ลูก จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองให้ความสนใจเป็นพิเศษ วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการ เปิดบัญชีให้ลูก ไว้แล้ว เริ่มตั้งแต่เอกสารที่ควรพกติดตัวไปด้วย รวมถึงการเปรียบเทียบผลตอบแทน และอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารต่าง ๆ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของพ่อแม่ผู้ปกครองอย่างแน่นอน

เอกสารประ กอบการ เปิดบัญชีให้ลูก ในแต่ละช่วงวัย
เด็กอายุแรกเกิด - 15 ปี ใช้สูติบัตร สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อของเด็ก และบัตรประชาชนของผู้ปกครอง
เด็กอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ และมีบัตรประชาชนแล้ว ใช้บัตรประชาชนของเด็ก และสำเนาท ะเบียนบ้าน
เด็กอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองที่ไม่ใช่พ่อแม่ตามสายเลือด ใช้สูติบัตร สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อของเด็ก บัตรประชาชนของผู้ปกครอง คำสั่งศาลแต่งตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์ หรือเอกสารรับบุตรบุญธรรม (ถ้ามี)

ผลตอบแทนและอัตราดอกเบี้ยของธนาคารต่าง ๆ
- ธนาคารกรุงไทย
โดดเด่นกว่าใครในด้านความคล่องตัวเนื่องจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษสำหรับผู้เยาว์จากธนาคารกรุงไทยให้อิสระในการฝาก ถอน โอน ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่จำเป็นต้องฝากต่อเนื่องกันทุกเดือน เปิดบัญชีได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 15 ปี หลังจากเด็กอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์บัญชีนี้จะถูกปรับเป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ปกติ กำหนดให้เปิดบัญชีขั้นต่ำ 2,000 บาท ฝากครั้งต่อไปเท่าไรก็ได้ แต่กำหนดให้ฝากสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยทุกวันสิ้นเดือน อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วง 0.25 - 0.50% แต่สำหรับผู้มีเงินฝากมากกว่ายอดเงินถอนจะได้รับโบนัสเพิ่ม 100% ของดอกเบี้ยที่ได้รับในเดือนนั้น จึงไม่แปลกที่จะเป็นหนึ่งในบัญชีธนาคารที่ผู้ปกครองนิยมเปิดบัญชีออนไลน์ (https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_7878650)   ให้ลูก

- ธนาคารออม สิน
บัญชีเงินฝาก Youth Saving เปิดบัญชีเงินฝากประจำ (https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_7878650)ได้ตั้งแต่อายุ 7 – 23 ปี ฝากครั้งแรกขั้นต่ำ 100 บาท จากนั้นฝากเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่า 50 บาท ให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำกว่า 100,000 บาท 1.25% ต่อปี เงินฝาก 100,000 บาทขึ้นไป 0.50% ต่อปี โดดเด่นที่การให้ดอกเบี้ยฝากประจำ (https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_7878650)พิเศษปีละ 2 ครั้ง และไม่หักภาษีดอกเบี้ย ด้วยเงื่อนไขการฝากเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่า 50 บาท จึงเหมาะกับผู้ปกครองที่ต้องการออมเงินให้ลูกอย่างเคร่งครัด หากมีวินัยทางการเงินก็จะได้รับดอกเบี้ยพิเศษจากบัญชีนี้เป็นการตอบแทน

- ธนาคารกรุงเทพ
บัญชีเงินฝากสินมัธยะทรัพย์ทวี – บัวหลวงคิดส์ออม เปิดบัญชีได้ตั้งแต่แรกเกิด – 14 ปี กำหนดให้ฝากประจำเท่ากันทุกเดือน ตั้งแต่ 500 - 25,000 บาท ต่อเนื่องกันทุกเดือนเป็นเวลา 2 ปี แต่ต้องมีเงินฝากสูงสุดในบัญชีไม่เกิน 600,000 บาท หากทำได้ตามเงื่อนไขนี้จะได้รับดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีฝากประจำแบบ 12 เดือน โดยไม่หักภาษีดอกเบี้ย
ธนาคารกสิกรไทย
โดดเด่นด้วยช่วงอายุของเด็กที่เริ่มตั้งแต่แรกเกิดและไม่จำกัดช่วงอายุ เป็นการแก้ไขจากเดิมที่เคยจำกัดไว้ที่อายุ 15 ปีเท่านั้น การคิดดอกเบี้ยใช้วงเงินเป็นเกณฑ์ โดยวงเงินฝาก 10,000 - 25,000 บาทต่อเดือน จะได้รับดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี และวงเงินฝาก 500 – 9,999 บาท จะได้รับดอกเบี้ย 1.35% ต่อปี แต่มีเงื่อนไขว่าต้องฝากเงินต่อเนื่องกันทุกเดือนเป็นเวลา 2 ปี ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากับยอดเงินเปิดบัญชี หากทำตามเ งื่อนไขได้ครบ นอกจากจะไ ด้รับอัตราดอกเบี้ยตามที่กำหนดไว้แล้วยังจะได้รับยกเว้นภาษีดอกเบี้ยอีกด้วย

อ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าพ่อแม่ผู้ปกครองคงจะเริ่มจับทางถูกแล้วว่าสไตล์การออมเงินเพื่อลูกของตนเองควรจะเป็นไปในทิศทางใด และบัญชีของธนาคารใดจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามในเรื่องรายละเอียดของเอกสารพ่อแม่ผู้ปกครองควรสอบถามกับเจ้าหน้าที่ธนาคารให้แน่ชัดอีกครั้ง เนื่องจากธนาคารบางแห่งอาจมีนโยบายด้านเอกสารแตกต่างออกไป ทำให้ต้องใช้เอกสารเพิ่มเติมเพื่อ เปิดบัญชีให้ลูก การสอบถาม ล่วงหน้าเพื่อเตรียมการจึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรคำนึงถึงด้วยเช่นกัน