ทำอย่างไรถึงจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน หรือ immune system เพื่อต้านไวรัสโควิด-19 ได้? เป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบที่สามารถยืนยันได้เพราะยังไม่มีผลการวิจัยทางการแพทย์ที่ยืนยันได้ ณ วันนี้ ความเชื่อต่างๆ ตั้งแต่วิตามินซี วิตามินดี หรือซิลเวอร์นาโน ที่กินแล้วสามารถต้านทานไวรัสโควิดได้ก็ยังไม่มีการยืนยันเช่นกัน สารตัวหนึ่งอาจสามารถต้านไวรัสบางตัวได้แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะสามารถต้านไวรัสได้ทุกตัว ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดคือทำให้สุขภาพร่างกายโดยรวมแข็งแรง เพราะจากผ
ลการศึกษาพบว่าผู้สูงอายุหรือผู้มีสุขภาพไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วมีความเสี่ยงสูงกว่าที่จะรับเชื้อแล้วมีปฏิกิริยาต่อเชื้อรุนแรง เช่น ผู้ที่เป็นเบาหวานหรือความดันสูง ในขณะที่ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงในหลายๆ กรณีถึงแม้จะได้รับไวรัสแล้วแต่อาจไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ หรือมีอาการน้อยมาก ดังนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายโดยรวมให้แข็งแรงมีผลมากต่อการต้านทานเชื้อไวรัส และนี่คือวิธีเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่ทุกคนสามารถทำได้เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องต้านไวรัสแล้วยังสร้างสุขภาพที่ดีเพื่อให้เราห่างไกลโรคอื่นๆ อีกด้วย
1. ทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ
หรือที่เรียกกันว่า Low-carb รวมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าการทานอาหารแบบ Low-carb ช่วยสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายในระยะยาว มีผลดีต่อความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด ระบบการเผ
าผลาญอาหา
รและการคว
บคุมน้ำหนัก มีผลการวิจัยพบว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือระบบการเผาผลาญอาหารบกพร่องมีความเสี่ยงที่จะมีอาการป่วยรุนแรงหากได้รับเชื้อโควิดมากกว่าคนทั่วไป
2. งดสูบบุหรี่
เพราะการสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ โดยเฉพาะใ
นปอดและยังทำให้หากได้รับเชื้อเข้ามาแล้วจะทำให้มีการอักเสบรุนแรงขึ้นอีกด้วย
3. นอนหลับให้เพียงพอ
เป็นที่ทราบอยู่แล้วว่าการนอนหลับอย่างเพียงพอสำคัญต่อสุขภาพที่ดี การนอนหลับสนิทเพียงพอยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่ายการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผลการวิจัยพบว่าผู้นอนหลับน้อยจะมีภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ จากการทดล
องผู้ที่นอนหลับน้อยกว่า 7 ชั่วโมงมีโอกาสมากกว่าถึง 3 เท่าในการติดไวรัสเมื่อเทียบกับคนที่นอนหลับ 8 ชั่วโมงขึ้นไป
4. ออกกำลังกายอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ
จากผลการศึกษาพบว่าผู้ที่ออกกำลังกายอย่างเพียงพอจะมีอาการจากการติดเชื้อน้อยกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย และในช่วงที่ไวรัสกำลังระบาดนี้แนะนำให้ออกกำลังกายที่บ้านเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการสัมผัสกับเชื้อโรค
5. จัดการกับความเครียด
ความเครียดเป็นอีกตัวการหนึ่งที่ทำให้การทำงานของภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง ความเครียด ความวิตกกังวลกับอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้นล้วนมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน มีการศึกษากับนักศึกษาแพทย์ในช่วงใกล้สอบพบว่าความเครียดมีผลอย่างชัดเจนกับระบบภูมิคุ้มกันโรค อาจจะเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเครียดเลย แต่เราสามารถจัดการกับมันได้เมื่อเริ่มรู้ตัวว่ากำลังเครียดสามารถใช้วิธีการต่างๆ เพื่อลดความเครียด เช่น การทำสมาธิ การออกกำลังกาย การทำสวน รดน้ำต้นไม้ เล่นกับสัตว์เลี้ยง ซึ่งสามารถช่วยลดความเครียดลงได้
ุ6. ทานอาหารเ
สริม
a. วิตามินซี ถึงแม้ว่ายังไม่มีผลการวิจัยใดๆ ยืนยันว่าวิตามินซีช่วยยับยั้งโควิดได้ แต่มีการใช้วิตามินซีป้องกันไข้หวัดทั่วไปมานานหลายสิบปี ผลการวิจัยพบว่าวิตามินซีช่วยเพิ่มสมรถภาพการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งมีผลในการเพิ่มความสามารถในการต้านการติดเชื้อ The National Academy of Medicine แนะนำว่าไม่ควรทานวิตามินซีมากกว่า 2000 มิลลิกรัมต่อวัน ถึงแม้วิตามินซีจะละลายในน้ำและสามารถขับออกมาทางปัสสาวะก็ตาม แต่การได้รับวิตามินซีมากเกินไปอาจมีผลต่อไตได้
b. วิตามินดี มีผลทั้งต่อภูมิต้านทานและฮอร์โมน จริงๆ ร่างกายเราสามารถสร้างวิตามินดีได้เองเมื่อผิวหนังสัมผัสแสงแดด แต่ด้วยความกลัวแดดอันร้อนแรงของบ้านเราหลายๆ คนจึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแดดโดยตรง ดังนั้นการทานวิตามินดีเสริมจึงเป็นทางเลือก แนะนำให้ทานไม่เกิน 2000 IU ต่อวัน
c. สังกะสี เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งมีผลต่อการทำงานของเม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค ผลการศึกษาพบว่าการทานแร่สังกะสีเป็นอาหารเสริมช่วยลดระยะเวลาการเป็นหวัดได้ถึง 33% โดยการทาน
สังกะสีเสริมไม่ควรเกิน 40 มิลลิกรัมต่อวัน
d. ขมิ้นชัน หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Turmeric ผลการวิจัยในช่วงที่ผ่านมาไม่นานพบว่าขมิ้นชันมีผลต่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายเช่นกัน
e. เอ็กไคนาเซีย (Echinacea) เป็นสมุนไพรที่ช่วยป้องกันการเป็นไข้หวัดทั่วไป และการศึกษาพบว่ามีฤทธิ์อ่อนๆ ในการป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจด้วย
f. กระเทียม มีฤทธิ์ในการต้านแบคทีเรีย รวมทั้งสรรพคุณในการป้องกันไข้หวัด ผลการศึกษาในปี 2014 พบว่าผู้ที่ทานกระเทียมเป็นอาหารเสริมเป็นหวัดน้อยกว่าและหายเร็วกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ทาน
เคล็ดวิธี เพิ่มภูมิต้านทาน สู้ COVID-19 อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/
